Categories
จิ้งหรีด ตลาดแมลง แมลง

เชฟชื่อดังโชว์เปิบเมนูเด็ดอาหารจากจิ้งหรีด

ประภัตร”นำเชฟชื่อดังโชว์เปิบเมนูเด็ดอาหารจากจิ้งหรีดเพื่อสุขภาพสู่ระดับภัตตาคารและตลาดโลกก่อนเดินหน้าหนุนเกษตรกรเลี้ยงจิ้งหรีดสร้างรายเสริม
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เชิญ”เชฟโอ๊ต อิทธิกร สรศาสตร์”จากร้าน Insect In The Backyard และ “เชฟ เกษร แม่นแก้ว”จากร้าน CnC cafe มาแนะนำวัตถุดิบที่มีส่วนผสมของแมลงกินได้และจิ้งหรีด เพื่อนำมาประกอบอาหาร รวมทั้งโชว์เคล็ดลับ เทคนิคในการปรุงเมนูอาหารที่มีส่วนผสมของแมลงกินได้และจิ้งหรีด ให้อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีเมนู ดังนี้

1. ซีซาร์สลัด ด้วงสาคู
2. นาโชส์แมลง
3. แมลงรวมผัดพริกเกลือ
4. พาสต้าเส้นสะดิ้งผัดแห้งด้วงสาคู
5. มัลเบอร์รี่ชีสพายสะดิ้ง
6. ข้าวจี่
7. น้ำพริกเผา
8. ข้าวผัดจิ้งหรีด

โดยมีที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยฯนายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองเลขาธิการ มกอช. นายชนวัฒน์ สิทธิธูรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม นโยบายระหว่างประเทศที่ 3 มกอช. และกรมปศุสัตว์ ร่วมชมการแนะนำและ สาธิตการปรุงอาหารในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้นายประภัตรฯเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมหารือร่วมกับ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ภาคเอกชนผู้ผลิต/แปรรูป และจำหน่ายจิ้งหรีด-ผลิตภัณฑ์ (ขวัญใจฟาร์ม และเปี่ยมสุขฟาร์ม) โดยให้กลุ่มเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นกลุ่มปฏิบัตินำร่องเพื่อเตรียมการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงจิ้งหรีดในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเสริมสร้างรายได้ กระจายโอกาส ช่วยแก้ปัญหาความยากจน ตลอดจนวางเป้าให้เป็นฐานการผลิตป้อนตลาดโลก โดยมีประเด็นสำคัญ คือส่งเสริมให้มีการตั้งฟาร์มมาตรฐาน GAP เพื่อผลิตจิ้งหรีดคุณภาพ นำร่องที่จังหวัดสุพรรณบุรี รวม 200 รายภายหลังการดำเนินงานในระยะแรกจะมีการประเมินเพื่อขยายผลไปในวงกว้างต่อไป

ทั้งนี้คัดเลือกเกษตรกรเป้าหมาย มอบให้นายกเทศบาลตำบลเป็นผู้รับผิดชอบ สำหรับด้านระบบงานส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งหรีด มอบหมายกรมปศุสัตว์ โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับ กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ เป็นผู้ประสานงานที่ส่วนกลาง และให้ “ขวัญใจฟาร์ม” และ “เปี่ยมสุขฟาร์ม” เป็นผู้รับซื้อผลผลิตในราคาประกัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนมอบให้ มกอช. ร่วมกับกรมปศุสัตว์ให้คำแนะนำด้านการจัดทำมาตรฐานฟาร์ม GAP แก่เกษตรกร และให้กรมปศุสัตว์ โดยสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ คิดสูตรอาหารสัตว์ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงจิ้งหรีด เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ในท้องถิ่นราคาถูก มาผสมอาหารสัตว์ใช้เองนำไปเลี้ยงสัตว์ให้เหมาะสมกับระยะการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตของสัตว์เลี้ยง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์

นอกจากนี้ยังได้มีการประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เพื่อหารือแนวทางในการส่งเสริมเกษตรกรให้มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ เพิ่อสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรและเตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนร่วมกัน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยนเรศวรยินดีให้คำแนะนำและพร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรได้มีอาชีพที่มั่นคง ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) คลี่คลายก็ที่จะ พร้อมเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

Categories
จิ้งหรีด ตลาดแมลง ผงจิ้งหรีด แมลง

ขายแมลงให้เป็นธุรกิจ ทำเงินไว ส่งออกได้ทั่วโลก

Main Idea

คนไทยรู้จักการบริโภคแมลงมานานเป็นร้อยปี แต่ธุรกิจเพาะเลี้ยงแมลงในประเทศเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 15-20 ปีก่อน โดยแมลงซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่สำคัญ ไม่เพียงเป็นที่ต้องการสำหรับตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการในต่างประเทศอีกด้วย จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจฟาร์มแมลงในบ้านเราที่จะขยายตลาดส่งออกให้มากขึ้น

การเพาะเลี้ยงแมลง สามารถสร้างรายได้ให้ทั้งการทำเป็นอาชีพเสริม และการลงทุนฟาร์มมาตรฐาน แต่หัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ คือ “ตลาด”

 

 

จากการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับฟาร์มจิ้งหรีด และมองเห็นเทรนด์การบริโภค “โปรตีนทางเลือก” ที่ความนิยมเติบโตไปทั่วโลกนั้น เป็นจุดตัดสินใจทำให้เมื่อ 5 ปีก่อน “นนทวัฒน์ บางเอี่ยม” ผันตัวเองจากนักวิจัยมาเป็นเจ้าของกิจการฟาร์มจิ้งหรีด และจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขวัญใจฟาร์ม ผลิตและจำหน่ายแมลงแช่แข็งภายใต้แบรนด์ “ขวัญใจฟาร์มจิ้งหรีด” ส่งจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ

โดยโปรตีนจากแมลงนั้น พบว่ามีคุณภาพใกล้เคียงกับเนื้อปลา อีกทั้งหลายประเทศทั่วโลกนิยมบริโภคแมลงอย่างน้อย 1-2 ชนิด เช่น หนอนนก แมลงสาบชนิดที่กินได้ และแมลงวันลายซึ่งนิยมนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ ในขณะที่คนไทยกินแมลงมานานแล้ว มีตัวเลขการบริโภคประมาณ 7 พันตันต่อปี มีกลุ่มผู้เลี้ยงแมลงอยู่ 2 หมื่นราย แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นฟาร์มขนาดกลางและเล็ก รวมแล้วผลิตได้ 30-40 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนตลาดแปรรูปในประเทศมีผู้ผลิตอยู่เพียง 5-6 รายเท่านั้น

 

“แหล่งที่มาของแมลงในบ้านเรามี 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่เพาะเลี้ยงไม่ได้ แต่จะใช้วิธีการดักจับ และกลุ่มที่เพาะเลี้ยงได้ นั่นก็คือจิ้งหรีด และดักแด้ไหม ซึ่งมีการพัฒนาขั้นตอนการเลี้ยงอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การมีพ่อแม่พันธุ์ การเพาะไข่ เลี้ยงตัวอ่อนและวิธีการจับ อีกทั้งยังมีอาหารสำเร็จรูปสำหรับการเลี้ยงโดยเฉพาะ

แม้ว่าปัจจุบันตลาดในประเทศจะยังไม่เสถียรนัก แต่ตลาดที่จะเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจแมลงของไทยคือ ตลาดส่งออก โดยตลาดส่งออกแมลงของไทยจะแบ่งออกเป็น 3 ตลาดคือ ผงแป้งจากแมลง จะส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรปเป็นหลัก ส่วนการแปรรูป เช่นทอด และอบ ตลาดหลักจะอยู่ที่จีน และเวียดนาม สุดท้ายคือแมลงแช่แข็ง เพื่อรักษาสภาพของแมลงไว้ให้มีคุณภาพดังเดิม โดยปัจจุบัน ทางหน่วยงานราชการ ไม่ว่าจะเป็น มกอช. (สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ) และกรมปศุสัตย์ ได้ออกมาตรฐานการเลี้ยงฟาร์มจิ้งหรีดออกมาแล้ว ตลอดจนอบรมวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้อง ทำให้ตอนนี้หลายๆ ฟาร์มอยู่ในช่วงของการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งทำให้มองเห็นโอกาสในการส่งออกมากขึ้น

โดยเฉพาะการขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ประเทศในแถบอเมริกาใต้ อย่างเม็กซิโก คนที่นั่นเขากินแมลงกันเป็นประจำอยู่แล้ว ยังมีตลาด เปรู และ ชิลี ที่มองว่าจิ้งหรีดจากไทยน่าจะเข้าไปทดแทนแมลงดั้งเดิมที่เขากินกันได้ แต่การจะส่งออกไปประเทศเหล่านี้ได้ จะต้องมีวอลุ่มที่ใหญ่มากพอ ดังนั้น ผู้เลี้ยงที่เป็นฟาร์มมาตรฐานในบ้านเราควรรวมกลุ่มกันเพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สร้างอำนาจต่อรองและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ รวมทั้งภาครัฐจะมีความสามารถเข้ามาสนับสนุนได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย” นนทวัฒน์ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาในธุรกิจแมลงนั้น นนทวัฒน์ บอกเล่าจากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 5 ปี ว่าการเพาะเลี้ยงแมลงในประเทศจะใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก อยู่ที่หลักเกือบๆ หนึ่งแสนบาท ไปจนถึงหลัก 2 แสนบาท สามารถเลี้ยงและจะมีผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 100-500 กิโลกรัม ต่อเดือน มีราคาขายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท จะทำให้ผู้เลี้ยงมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 60,000 – 70,000 บาท ซึ่งจะทำให้คืนทุนเร็วมาก

หรือหากต้องการขยายสเกลการเพาะเลี้ยงให้ใหญ่ขึ้นกว่านี้ ผู้เลี้ยงจะต้องขยับมาเป็นการขายส่งด้วย ซึ่งกำไรอาจจะลดลงไปบ้าง และหากสามารถหาตลาดได้ก็จะทำให้อยู่ได้

“ผู้ที่ต้องการจะเข้ามาในธุรกิจนี้ แนะนำว่า หากต้องการทำเป็นอาชีพเสริม มีพื้นที่เลี้ยง และมีตลาดที่สามารถขายเองได้ ก็ทำได้เลยด้วยการลงทุนหาซื้ออุปกรณ์การเลี้ยงมา ลักษณะนี้จะมีกำไรต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาทเพื่อเป็นรายได้เสริม ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ขึ้น สามารถมาศึกษาโมเดลและวิธีการที่ขวัญใจฟาร์มจิ้งหรีดก่อนได้ แต่สิ่งสำคัญอย่างแรกคือต้องหาตลาดให้ก่อนด้วย ส่วนการเพาะเลี้ยงจะใช้อาหารสำเร็จรูปซึ่งจะมีต้นทุนสูงกว่าการเลี้ยงแบบธรรมชาติ แต่หากตัดสินใจลงทุนแล้ว ขอแนะนำว่าควรทำเป็นฟาร์มมาตรฐานเลย เพื่อการมองหาโอกาสตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ” นนทวัฒน์ กล่าว

เขาย้ำทิ้งท้ายอีกด้วยว่า ตลาดแมลงเศรษฐกิจในบ้านเรายังมีความน่าสนใจอยู่มาก แต่ควรสร้างให้เป็นมาตรฐานเพื่อเป้าหมายด้านตลาดส่งออก ซึ่งตลาดโลกถือเป็นตลาดที่กว้างมาก มีโอกาสเติบโตสูง ที่ผ่านมาพบว่าเติบโตถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และในอนาคตอีก 30 ปีข้างหน้า เมื่อจำนวนประชากรโลกเติบโตจาก 7 พันล้านคน เป็น 9 พันล้านคน เวลานั้นแหล่งโปรตีนหลักอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคก็เป็นได้

ดังนั้น “แมลง” จึงจะเป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้ประชากรโลกได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน

Categories
จิ้งหรีด ตลาดแมลง ผงจิ้งหรีด แมลง

“จิ้งหรีด” สัตว์เศรษฐกิจในอนาคต โปรตีนสูง ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหาร

“จิ้งหรีด” สัตว์เศรษฐกิจในอนาคตแปรรูปอาหารเพื่อสุขภาพโปรตีนสูง ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหาร

วันที่ 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 8.30 น.ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดการประชุมวิชาการจิ้งหรีดอีสานสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยมี ข้าราชการ พนักงาน รัฐวิสาหกิจ ภาคีเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ และภาคประชาชน ร่วมงานจำนวน 100 คน โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นประธานกล่าวเปิดงาน

รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ ด้านตลาดทั้งในและต่างประเทศ ในอุตสาหกรรมอาหารโปรตีนทางเลือกจากแมลง โดยเน้นที่จิ้งหรีดเป็นสำคัญ แนวทางส่งเสริมการยกระดับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน อุตสาหกรรมอาหารโปรตีนจากแมลง ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นการจัดประชุมต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาซึ่งมุ่งเน้นแนวทางการยกระดับเข้าสู่มาตรฐานฟาร์มปลอดภัย ถือเป็นการสร้างกระแสการรับรู้ประโยชน์ของจิ้งหรีดที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ให้เป็นแหล่งอาหารแห่งอนาคต

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัย

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประธานในพิธีกล่าวเปิดการประชุมว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้าร่วมการประชุมวิชาการจิ้งหรีดอีสานครั้งที่ 2 ในวันนี้ และขอขอบคุณสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้จัดการประชุมวิชาการ และได้รับความสนใจจากผู้เข้าประชุมจำนวนมาก เป็นที่ทราบชัดเจนว่า อุตสาหกรรมอาหารโปรตีนทางเลือกจากแมลงเป็นอาหารแห่งอนาคตที่มีลู่ทางแจ่มใสในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดและประชาชนในภาคอีสานมีความรู้ความชำนาญ คุ้นชิน นิยมบริโภคมานาน เป็นองค์ความรู้ของพื้นถิ่น ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดสมัยใหม่ นับว่าเป็นโอกาสอย่างยิ่งที่จะยกระดับ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อันจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม และรายได้ให้ต่อเนื่องและยั่งยืน หากสามารถบูรณาการกระบวนการทำงานทั้งภาคราชการ ภาควิชาการ ภาคกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด และภาคปฏิบัติการในอุตสาหกรรมอาหารให้สนับสนุน สอดคล้องซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้ ดังนั้น การจัดประชุมวิชาการในวันนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการประสานความร่วมมือเพื่อบูรณาการในประเด็นสำคัญดังกล่าว ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นยินดีสนับสนุนในภารกิจและเชิญชวนนักวิชาการ ตลอดจนภาคราชการและภาคธุรกิจ สภาอุตสาหกรรม ตลอดจนกลุ่มเกษตรกรร่วมมือกัน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านเกษตรและอาหารตามนโยบายของรัฐบาล

     

สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดทำโครงการพัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานปลอดภัย ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ฝ่ายเกษตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2562-2564 โดยใช้พื้นที่บ้านแสนตอ ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และบ้านฮ่องฮี ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่โครงการ ซึ่งขณะนี้ได้สนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มจิ้งหรีด หรือ GAP จำนวน 21 ฟาร์ม เป็นจำนวนที่มากที่สุดในประเทศไทย และมีฟาร์มจิ้งหรีดพร้อมที่จะยื่นขอการรับรองเพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ฟาร์ม ส่วนบ้านฮ่องฮี ปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงฟาร์มเพื่อยื่นขอการรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 11 ฟาร์ม ซึ่งได้รับอนุมัติโครงการเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนสามารถสนับสนุนการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน มีโครงสร้างและระบบการบริหารที่เหมาะสม ภายใต้การประสานความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและเอกชนในพื้นที่การจัดการประชุมวิชาการในวันนี้จึงมุ่งเน้นที่ด้านการตลาดเพื่อแสวงหากลไกในการขับเคลื่อนให้ครบห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงกลางน้ำ โดยมีตลาดและผู้บริโภคเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อให้เกษตรกรในภาตะวันออกเฉียงเหนือได้ใช้โอกาสและศักยภาพของตน เรื่องจิ้งหรีดเป็นประเด็นที่สร้างความเข้มแข็งจากความถนัดและความสามารถของเกษตรกรเป็นสำคัญการจัดประชุมวิชาการครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการค้า การตลาดระหว่างประเทศจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ การบริหารจัดการฟาร์ม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า กลุ่มเกษตรกร และภาคเอกชนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยตลอดจนนักวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษา ที่จะมานำเสนอความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตการประชุมครั้งนี้

หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดแล้วได้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง “ลู่ทางการค้าอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต”โดย นางสาว ณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสานักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ต่อด้วยการเสวนา “อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต : อนาคตของอีสาน”ร่วมเสวนา โดย นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายวิศิษฏ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ศ.ดร. มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินการเสวนา โดย รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และในภาคบ่ายเป็น การเสวนา “จิ้งหรีดอีสาน องค์ความรู้ บทเรียน สู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ”  ร่วมเสวนา โดย น.สพ.นพพร โต๊ะมี สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สพ.ญ. ลัลน์ลลิต สุคนธรัตนสุข บริษัท ลัลน์ลลิต อะกริ ฟู้ดส์ จำกัด รศ.ดร. ศิริธร ศิริอมรพรรณ หัวหน้าหน่วยวิจัยการพัฒนากระบวนการแปรรูปและผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ดำเนินการเสวนา โดย ดร.บุษกรณ์ ลีเจ้ยวะระ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และการเสวนา “จาก Local to Global เส้นทางของจิ้งหรีดจะรุ่งหรือร่วง ?” ร่วมเสวนา โดย นาย นนทวัฒน์ บางเอี่ยม ประธานวิสาหกิจชุมชนขวัญใจฟาร์ม จังหวัดพิษณุโลก นายเพ็ชร วงศ์ธรรม ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอ นางสาว รุจิเรข น้อยเสงี่ยม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร สานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ดำเนินการเสวนา โดย นายอนุวรรตน์ ศรีสวัสดิ์ สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสรุปผลปิดการประชุม โดย รองศาสตราจารย์ รังสรรค์ เนียมสนิท ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น